วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Learning 2

สรุปเนื้อหาบทเรียน ครั้งที่ 2
 
บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฏหมายและจริยธรรม
 
 
                         การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ การรับวัฒนธรรมที่แฝงเข้ามากับแหล่งข่าวสารข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรมของมนุษย์ โดยเฉพาะบนเครือข่ายสารสนเทศซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทุกมุมโลก การเปิดรับข่าวสารที่มาจากแหล่งข้อมูลดังกล่าวจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ และทัศนคติส่วนบุคคล การรับข้อมูลข่าว สารที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยเฉพาะ พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ และมีแนวโน้มทำให้เกิดอาชญากรรม ปัญหาทางศีลธรรมและจริยธรรม
 
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ผลกระทบทางบวก
 

1) เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความสะดวกสบาย
2) เป็นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น โดยสามารถเอาชนะเรื่องระยะทาง เวลา และสถานที่ได้ ด้วยความเร็วในการติดต่อสื่อสารที่เป็นเครือข่ายความเร็วสูง
3) มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต
4) เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย
 5) พัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ กระตุ้นความสนใจแก่ผู้เรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน (Computer-Assisted Instruction : CAI) และการเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-Assisted Learning : CAL)

6) การทำงานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น กล่าวคือช่วยลดเวลาในการทำงานให้น้อยลง แต่ได้ผลผลิตมากขึ้น

7) ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการบริโภคสิ้นค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพดีขึ้น


ผลกระทบทางลบ

 
1) ก่อให้เกิดความเครียดขึ้นในสังคม เนื่องจากมนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

2) ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม หรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในสังคมโลก การแพร่ของวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่งสังคมอีกสังคมหนึ่งซึ่งอาจก่อให้เกิด ค่านิยมที่ไม่พึ่งประสงค์ขึ้นในสังคมนั้น

3) ก่อให้เกิดผลด้านศิลธรรม การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในระบบเครือข่ายก่อให้เกิดโลกไร้พรมแดน พบว่ามีความแตกต่างกัน ประเทศต่างๆ นับถือศาสนาแตกต่างกัน และมีค่านิยมแตกต่างกัน ทำให้เยาวชนรุ่นใหม่สับสนต่อค่านิยมที่ดีงามดั่งเดิม เกิดการลอกเลียนแบบ
4) การมีส่วนร่มของคนในสังคมลดน้อยลง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการสื่อสาร และการทำงาน
5) การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่มีขีดจำกัดย่อมส่งผลต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลโดยไม่สามารถป้องกันตนเองได้
6)  เกิดช่องว่างทางสังคม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวช้องกับการลงทุน ผู้ใช้จึงเป็นชนชั้นในอีกระดับหนึ่งของสังคม ในขณะที่ชนชั้นระดับรองลงมามีอยู่จำนวนมากกลับไม่มีโอกาสใช้
7) เกิดการต่อต้านเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานมากขึ้น ระบบการทำงานต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป คนที่ทำงานด้วยวิธีเก่าๆ เกรงกลัวว่าตนเองด้อยประสิทธิภาพ จึงเกิดสภาวะของความรู้สึกต่อต้าน

8) อาชญากรรมบนเครือข่าย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ขึ้น
9) ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีผลเสียต่อสายตาซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศรีษะ
       เราสามารถพิจารณาปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้จากการวิเคราะห์ทัศนคติต่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ในมุมมองที่แตกต่างกัน ได้ดังนี้

- มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อให้มนุษย์บรรลุวัตถุประสงค์
- มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและสังคมต่างก็มีกระทบซึ่งกันและกัน
- มุมมองว่าเทคโนโลยีเป็นกลไกในการดำรงชีวิตของมนุษย์


แนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ

- ใช้แนวทางสร้างจริยธรรม (Ethic)
- สร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง
- ใช้แนวทางการควบคุมสังคมโดยใช้วัฒนธรรมที่ดี
- การสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมชุมชน
- ใช้แนวทางการเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ใช้แนวทางการบังคับใช้ด้วยกฎ ระเบียบ และกฎหมาย



ประเด็นพิจารณาการใช้จริยธรรมเพื่อแก้ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
1 ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศ และทฤษฎีเรื่องจริยธรรม
2 เทคโนโลยีสารสนเทศกับจริยธรรมและการเมือง
3 เทคโนโลยีสารสนเทศกับจริยธรรมและความเป็นมนุษย์


การใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ

องค์กรระหว่างประเทศต่างก็ได้เข้ามามีบทบาทในการจัดประชุมเจรจา เพื่อจัดทำนโยบายและตัวบทกฎหมายด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศไทยจะต้องจัดทำกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ ในเรื่องนี้ได้ถูกดำเนินการโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นแกนกลางในการพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นฐาน โดยมีกรอบสาระของกฎหมายในเรื่องต่างๆ ดังนี้

ก. กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) สาระของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลของบุคคลไปใช้ในทางมิชอบ

ข. กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Relate Crime) วัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองสังคมจากความผิดที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร

ค. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) วัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองการทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ง. กฎหมายการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) วัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้เพื่ออำนวยการให้มีการทำนิติกรรมสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้

จ. กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature Law) วัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คู่กรณีในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการลงลายมือชื่อ

ฉ. กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer) วัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้ก็เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคด้านการโอนเงิน

ช. กฎหมายโทรคมนาคม (Telecommunication Law) วัตถุประสงค์เพื่อจัดการเปิดเสรีให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ อนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมได้อย่างทั่วถึง

ซ. กฎหมายระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ และการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

ฌ. กฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับระบบอินเทอร์เน็ต

ญ. กฎหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์

 
 

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

learning

สรุปเนื้อหาบทเรียน ครั้งที่ 1

บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ
 

     1.การจัดการสารสนเทศ   หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

    2. ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ    การจัดการสารสนเทศ โดยจัดเป็นระบบสารสนเทศต่างๆ เพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ เป็นความจำเป็นและมีความสำคัญทั้งต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน ดังนี้

2.1 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
2.2 ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
 
     3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศ     การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไป แบ่งอย่างกว้างๆได้เป็น 2 ยุค
เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
การจัดการสารสนเทศ
จะต้องมีขั้นตอนการจัดการที่ดีและเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่
1)  การรวบรวมข้อมูล
2) การตรวจสอบข้อมูล
3) การประมวลผลข้อมูลให้กลายเป็นสารสนเทศ
 
     4. แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ     การจัดการสารสนเทศ (information management) ในอดีตมักมุ่งที่การจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการเรียกใช้อย่างง่าย และต่อมา เมื่อสารสนเทศมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น มีหลายรูปแบบ การใช้ประโยชน์ในหลายวงการ ทั้งวงการธุรกิจ ภาครัฐ วิชาการและวิชาชีพต่างๆ ประกอบกับเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้การจัดการสารสนเทศมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การจัดการสารสนเทศเป็นทั้งการจัดการการผลิต รวบรวม จัดเก็บ และการค้นเพื่อใช้ได้อย่างสะดวก มีระบบที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

    กระบวนการจัดการสารสนเทศ
- การรวบรวมสารสนเทศ (collecting) เป็นการรวบรวม จัดเก็บสารสนเทศในรูปกระดาษหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากแหล่งต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ
                 - การจัดหมวดหมู่ (organizing) เป็นการนำสารสนเทศที่ได้รวบรวมและนำเข้าสู่ระบบมาจัดหมวดหมู่เพื่อการใช้ประโยชน์ การจัดหมวดหมู่เนื้อหาครอบคลุมการจัดทำดรรชนี (indexing) การจำแนกประเภท (classifying)
             - การประมวลผล (processing) เป็นการค้นหาและเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศที่ได้รวบรวมและจัดเก็บไว้ เพื่อจัดกลุ่ม จัดเรียง สรุปและวิเคราะห์ตามความต้องการ โดยการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศอาจรวบรวมจากแหล่ง
        - การบำรุงรักษา (maintaining) เป็นการนำสารสนเทศที่จัดการไว้กลับมาใช้ซ้ำ (reuse) เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บสารสนเทศเดียวกันหลายครั้งโดยไม่จำเป็น
ปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศ ในการจัดการสารสนเทศ ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 4ด้าน คือ เทคโนโลยี คน กระบวนการ และการบริหารจัดการ ดังนี้
         
การกำหนดความหมายของการจัดการความรู้
การจัดการความรู้ หรือ เคเอ็ม (Knowledge Management -- KM) หมายถึง การจัดการความรู้จึงเป็นกระบวนการในการมุ่งรวบรวม ประมวล และจัดการความรู้ทั้งความรู้เด่นชัด และความรู้ซ่อนเร้นหรือความรู้ฝังลึก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างและการแบ่งปันความรู้ระหว่างบุคลากร อันก่อให้เกิดการเรียนรู้ และท้ายสุดนำไปสู่ประโยชน์ในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อองค์การนั้นๆ
 
     5. การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ     การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดการเนื้อหาหรือเอกสาร ระบบคลังข้อมูล ระบบเว็บไซด์ท่า โครงการเหล่านี้น้อยรายที่จะประสบความสำเร็จ การสร้างการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีหลายประเด็นต้องคำนึงถึง เทคโนโลยีการจัดการสารสนเทศ ประกอบด้วยระบบต่างๆ
· การ จัดการ เนื้อหาใน เว็บไซต์ (web content management - CM)
             · การจัดการเอกสาร (document management - DM)
             · การจัดการด้านการจัดเก็บบันทึก (records management - RM)
             · โปรแกรมจัดการทรัพย์สินดิจิทัล (digital asset management - DAM)
             · ระบบการจัดการเรียนการสอน (learning management systems - LM)
             · ระบบการจัดเนื้อหาการสอน (learning content management systems - LCM)
             · ความร่วมมือ (collaboration )
             · การค้นคืนสารสนเทศในองค์กร ( enterprise search)
             · และอื่นๆ

 
 
 
 
 
 
 
 
 



วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

Jamsai

สำนักพิมพ์แจ่มใส





                สำนักพิมพ์แจ่มใส เป็นสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในประเทศไทย เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2545 เป็นผู้เผยแพร่นิยายรักโรแมนติกสำหรับวัยรุ่นที่ใหญ่ที่สุด โดยผู้อ่านส่วนมากเป็นวัยรุ่นผู้หญิง





                  เป็นสำนักพิมพ์ที่สร้างนักเขียน นักแปล และผลงานวรรณกรรมมาแล้วหลายเรื่อง รวมทั้งมีงานแปลวรรณกรรม จากภาษาเกาหลี ญี่ปุ่นและจีน นอกจากนี้สำนักพิมพ์แจ่มใส ยังมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมการกุศลต่อสังคมในบางโอกาส



              สำนักพิมพ์แจ่มใสมุ่งเน้นผลิตหนังสือนิยายโรแมนติก โดยมีผู้หญิงเป็นกลุ่มเป้าหมาย
ในภายหลังทางสำนักพิมพ์แจ่มใสได้จัดทำหนังสือแนวสอบสวน แฟนตาซี วรรณกรรมร่วมสมัย ตลอดจนด้านธุรกิจ คอมพิวเตอร์ รวมถึงหนังสือการศึกษาสำหรับเด็ก  นอกจากนี้ www.jamsai.com เว็บไซต์ของสำหนักพิมพ์แจ่มใสยังเป็นเว็บไซต์ติดอันดับจากการจัดอันดับเว็บไซต์ยอดนิยมด้วยเช่นกัน.
 
อ้างอิง :
1.Vichitsorasatra, Lisnaree (2007-07-04). "Young readers in love". The Nation. สืบค้นเมื่อ 2009-09-30.
2.วาเลนไทน์ให้ของขวัญเป็นหนังสือ. มติชน. ปีที่ 35 ฉบับที่ 12391. วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555. หน้า 19
3. วีรภัทร บุญมา. เบื้องหลังโต๊ะ บก. กรุงเทพวันอาทิตย์. ฉบับที่ 784. วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554. หน้า 9. เข้าถึงจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ. ปีที่ 24 ฉบับที่ 8361. วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554.




             ส่วนตัวฉันนั้นชอบอ่านนิยายหลายแนว เรียกได้ว่าเป็นนักอ่านนักสะสมคนหนึ่งและที่บ้านของฉันก็มีหนังสือของสำนักพิมพ์แจ่มใสเกือบ 400 เล่ม โดยส่วนใหญ่เป็นนิยายรักวัยรุ่นและแฟนตาซี
            นักเขียนนิยายรักวัยรุ่นคนโปรดของฉันคือ Hidako_sunshine, Mimoza, TheLittleFinger,  แสตมป์เบอร์รี่, ลูกชุบและหัวสมองตีบตัน และนักเขียนแฟนตาซีที่ฉันชอบ คือ Yu Wo (อ่านว่า อวี้หว่อ) ซึ่งเป็นนักเขียนไต้หวันชื่อดัง
 
                 และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันสนใจและติดตามมาตลอด 4 ปีค่ะ ถึงตอนนี้ฉันก็ยังอุดหนุนผลงานนักเขียนคนโปรดอยู่เสมอ.. ^O^

 

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

Merit

ทอดกฐิน.. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2556





 
              
            ประเพณีการทอดกฐิน เป็นประเพณีที่ดีงามประเพณีหนึ่งของไทย ในแต่ละปีกำหนดให้มีการจัดทอดกฐินขึ้นภายใน ๑ เดือน หลังประเพณีออกพรรษา การทอดกฐินเป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ก็ไม่เป็นการทอดกฐิน.
            ฉันและเพื่อนๆได้มีโอกาสทำบุญทอดกฐินของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556  ที่ผ่านมา การทำบุญเป็นสิ่งที่ดีนะคะ ทำแล้วทำให้รู้สึก มีความสุขปลอดภัย สบายใจ อิ่มอกอื่มใจอิ่มบุญ อย่าลืมหาเวลาทำบุญกันนะคะ (:
 


วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

About Me



 


My name : Bongkotchakorn Chomcheun (Nook)

Birthday : 19 June 1995
Graduated : Payakkaphum witthayakhan school
Study : Ecoomics Business at Maha sarakham University



                         ฉันชอบการถ่ายรูปที่สุด แนวโน้มบล๊อกนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องรูปแน่นอน ไม่ชอบตามกระแสนะคะ แต่ก็อาจมีบ้างที่จะโพสต์หรือดูและทำอะไรที่สังคมกำลังจับตามอง ก็ถ้ามันน่าสนใจสำหรับฉันน่ะ เป็นคนที่มีความชอบส่วนตัวเยอะค่ะ ส่วนชอบอะไรบ้างนั้น.. มีให้ติดตามในบล๊อกค่ะ ^^

 
สาระไม่ค่อยมีนะคะ :P